พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ หลังท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ พลังพุทธานุภาพสูงกว่าพระสมเด็จทั่วไป 250 เท่า เกิน super vip |
พระเครื่องพระสมเด็จที่สร้างขึ้นร่วมเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2411 นั้น นอกจากจะมีพระเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคทั่วฟ้าเมืองไทยในขณะนั้นมาเข้าร่วมพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกแล้ว พิธีกรรมทั้งพุทธและพราหมณ์ พระสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ประธานฝ่ายสงฆ์ ได้อธิษฐานจิตอัญเชิญพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ พระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ต่างกัน อทิสมานกายของคณะหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด ท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ (พระคาถาชินบัญชร) รูปพรหม 16 ชั้นที่อยู่ในปกครองของท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ เทวดาทุกชั้นฟ้า ได้มาร่วมพิธีการในครั้งนี้ด้วย พระแท้ทุกองค์จะมีสิ่งศักดิ์เช่น พรหม เทวดา ดูแลรักษาอยู่ พิธีกรรมในครั้งนี้ ในเมื่อเทวดาผู้เป็นใหญ่อย่างท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระเสด็จมาร่วมงานครั้งนี้ เทวดาผู้น้อยก็ต้องอยู่ด้านนอก ฉนั้นพระเครื่องและพระสมเด็จในพิธีกรรมครั้งนี้จะมีเทวดาชั้นพรหมเป็นผู้ดูแลรักษาอยู่เป็นส่วนมาก จะมีเทวดาชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานะระตี ชั้นปะระนิมมิตวสวัตตี และชั้นพรหม ถ้าเป็นพระสมเด็จวัดระฆังทั่วไป พ.ศ.อื่น ส่วนใหญ่จะมีเทวดาชั้นดาวดึงส์ขึ้นไปแต่ไม่ถึงชั้นพรหมจะดูแลรักษาพระองค์นั้น
พระสมเด็จวัดระฆัง หลังรูปท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ อย่าเข้าใจผิดคิดว่าพระพรหมต้องมี 4 หน้านะครับ คนสมัยนั้นวาดหรือเขียนรูปพระพรหมให้มี 4 หน้า เพราะองค์ท่านมีคุณธรรมอย่างหนึ่งคือ พรหมวิหาร 4 เลยเปรียบพระพรหมมี 4 หน้า ท่านั่งของท้าวมหาพรหมเรียกว่าท่านั่ง มหาราช พระสมเด็จหลังท้าวมหาพรหมด้านหน้าโรยผงตะไบทองคำสร้างปี พ.ศ. 2411 ข้าพเจ้าได้ลองกับผู้ชาย 2 คนที่สัมผัสพลังคุณพระได้ คนแรกบอกไม่ไหวเพราะข้าพเจ้าได้ให้ลองสัมผัสกับพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลที่ลงรักทองไปก่อนถึงกับบอกแน่นหัวใจ องค์ที่ 2 ให้ลองกับพระกริ่งมังกรทองเนื้อทองคำรู้สึกว่าแรง พอจะให้ลององค์ท้าวมหาพรหมต่อไปเลยบอกไม่ไหวตัวเขาเองยังแน่นหน้าอกอยู่ ข้าพเจ้าบอกเขาไปว่าพระสมเด็จวัดระฆังหลังรูปท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระเท่านั้นแหละเขาก็มีอาการขนลุกขึ้นมาทันทีโดยไม่ได้สัมผัสองค์พระ จากนั้นข้าพเจ้าได้เดินมาเจอผู้การฯเขายกมือไหว้เรียกอาจารย์ คือเมื่อก่อนผู้การฯนายทหารที่เกษียณแล้วเจอกันก็ทักทายกันธรรมดา วันหนึ่งข้าพเจ้าให้ท่านลองสัมผัสพลังโดยบอกวิธีการและกำหนดจิตเขาก็สามารถสัมผัสได้ ต่อจากนั้นเมื่อท่านเจอข้าพเจ้าเป็นต้องยกมือไหว้เรียกอาจารย์ ข้าพเจ้าก็เคยให้พระเครื่องไปหลายองค์ วันนี้ข้าพเจ้าก็หยิบพระสมเด็จองค์นี้ให้ท่านดูเป็นยังไงบ้าง ท่านก็พูดว่าแค่ส่องอย่างเดียวก็ขึ้นแล้วแรงซะด้วย ข้าพเจ้าให้ท่านพลิกดูด้านหลังและบอกไปว่ารูปท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระเท่านั้นแหละ ท่านร้องโอยแรงมากแน่นหัวใจเลย เมื่อข้าพเจ้าเอ่ยนามท่านๆรับรู้และเป็นจริงอย่างที่ข้าพเจ้าพูดกระแสญาณขององค์ท่านได้ทวีแรงขึ้นจนทำให้ผู้การฯรู้สึกแน่นหน้าอก เมื่อก่อนท่านก็เคยบอกว่าผมจับพระสมเด็จอะไรนะพิมพ์ยอดขุนพลของอาจารย์สัก 3 องค์ผมคงหมดเรี่ยวแรงแน่ เพราะเวลานั้นที่ท่านจับท่านบอกว่าวิ่งปรูดเข้าหัวใจแน่นหน้าอกต้องรีบถอนออกทันทีฯ
กระแสญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์องค์พระแต่ละองค์ไม่เท่ากันอย่างที่บอกไปข้างต้น มีหลายคนที่ไม่เคยสัมผัสพลังคุณพระได้มาก่อนก็สัมผัสได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ถ้าคนที่มีพระเหมือนของข้าพเจ้าแล้วโทรมาถามข้อมูลเพิ่มส่วนใหญ่สัมผัสพลังไม่ได้ ที่สัมผัสได้ก็มีแต่เขามีวิธีไม่เหมือนคนอื่น เขาเคยโทรมาคุยแล้วครั้งหนึ่งเขาอยู่สระบุรีครั้งหลังนี้เขามีพระสมเด็จมีโค๊ตระฆังเหมือนของข้าพเจ้าและอยากจะรู้ว่าข้าพเจ้ารู้หรือเปล่า กระแสพลังก็มาทันที ข้าพเจ้าเลยทักไปว่ารู้สึกอะไรหรือเปล่า เขาบอกว่าขนลุกทั้งตัวคือผมกำลังถือพระสมเด็จที่เหมือนของ อ. อยู่และผม...........(ไม่บอกรายละเอียด คนจะโทรมาเยอะ) พอเขาบอกว่าเป็นพระสมเด็จเหมือนของ อ. ข้าพเจ้าที่สัมผัสพลังอยู่แล้วแต่ยังไม่แรงพอเวลานี้ก็ขึ้นหัวทันทีและลดลง ...เรื่องพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลกระแสพลัง ณ ขณะนี้ นายหน้าอยู่ที่ ลำปาง (ประมาณ 600 กิโลเมตร)โทรมาถามข้อมูลจากข้าพเจ้าเขาก็สัมผัสพลังได้แต่เป็นช่วงๆไม่ตลอดเวลา ใกล้เข้ามาหน่อยก็ที่ นครราชสีมามีอาการขนลุกตลอด.. อยุธยาโทรมา 2 ครั้งมีอาการขนลุกแรงตลอดเวลา.....พระสมเด็จพระเจ้าตาก 2 คนสามีภรรยา จาก ตราด ก็สัมผัสพลังคุณพระได้....พระกริ่งหลวงปู่โต โทรจากพิจิตร พลังแผ่วมาก ไกลกว่านั้นสัมผัสไม่ได้... ใน กทม. ลูกศิษย์เจ้าคุณวัดดังแห่งหนึ่งโทรถามข้อมูลพระของท่านเจ้าคุณมีเหมือนของข้าพเจ้าแท้หรือเปล่าหลวงปู่โตปลุกเสกจริงหรือ เขาก็สัมผัสพลังขณะที่คุยกันได้ และเมื่อนัดเจอกันข้าพเจ้าเปิดกล่องให้เขาชมพระตัวอย่างพระเครื่องเนื้อดินหลายพิมพ์ของหลวงปู่โตเขาก็สัมผัสได้และจะมีอาการขนลุกเป็นช่วงๆ ถ้าคุยแต่เรื่องพระของข้าพเจ้าจะมีอาการ แต่ถ้าไปคุยเรื่องอื่นแล้วก็ไม่มี...มีอยู่คนหนึ่งโทรมาถามข้อมูล ข้าพเจ้าถามไปว่าตัวคุณมีอาการอะไรหรือเปล่าเขาไม่บอก ก็ยังคุยกันต่อไปอีกพักข้าพเจ้าก็ย้อนถามอีกว่ามีอาการอะไรหรือเปล่าเขาก็ไม่บอกจนสายตัดไป ข้าพเจ้าก็ลองโทรกลับไปสายว่างแต่เขาไม่ยอมรับ สงสัยคนนี้คิดไม่ดีคงมีอาการร้อนวูบวาบเหงื่อไหลเลยกลัว ความจริงตัวข้าพเจ้าก็ไม่มีอะไร เพียงแต่ปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรม สิ่งศักดิ์ประจำองค์พระเลยผ่านกระแสญาณและพลังมาตัวข้าพเจ้าแล้วส่งผ่านไปปลายสาย คือตัวข้าพเจ้าเป็นผู้รับและส่งได้ดี คนอื่นถึงรับกระแสพลังได้
เมื่อพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกระแสญาณของท่านแล้ว ก็พูดต่อไปให้อยู่ในบทความนี้เลย เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วข้าพเจ้าได้ไปเที่ยวพระราชวังบางปะอินกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน พี่ติ๋มพาอาจารย์ท่านไปเที่ยวแล้วให้ข้าพเจ้าไปด้วย พอเราทั้ง 3 เดินเข้ามาถึงด้านในที่ขวามือเราจะเห็น พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์ อาจารย์ท่านบอกว่ากลางพระที่นั่งมีรูปปั้นขององค์รัชกาลที่ 5 สถิตย์อยู่ ทุกคนก็ยกมือขึ้นไหว้ ตัวข้าพเจ้าพอยกมือขึ้นไหวโดยไม่ได้กล่าวอะไรเลย ขนลุกพรึบทั้งตัว แขน ขา หัว ขนลุกตั้งชันแบบเม่นเลยมองเห็นชัดมาก พี่ติ๋มพูดว่าเธอทำได้ยังไง และก็เป็นอยู่อย่างนั้นตลอดเวลาที่อยู่ในสถานที่ของพระองค์ท่าน สุดท้ายพอเดินมาถึงอนุเสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์(สมเด็จพระนางเรือล่ม) ทุกคนยกมือไหว้ อาการขนลุกของข้าพเจ้าก้หายไป ต่อมาก็ 10 กว่าปีที่แล้วเช่นกัน ภรรยาของข้าพเจ้าได้ดูแลงานก่อสร้างหอหักให้ที่หนึ่ง พอขึ้นปีใหม่คุณลุงเจ้าของบ้านก็เชิญภรรยาและครอบครัวไปทานเลี้ยงที่บ้านคุณลุง เมื่อได้เวลาก็ขอตัวกลับไหว้คุณลุงคุณป้าแล้วเดินออกมานอกบ้าน ขณะที่เดินมาถึงหน้าบ้านคุณลุงรีบตามออกมาและบอกกับข้าพเจ้าว่าจะพาไปดูของดี แล้วก็เดินกลับเข้าบ้านใหม่เท่านั้นแหละข้าพเจ้าขนลุกตั้งชันอีกแล้วขณะเดินเข้าบ้าน คนในบ้านหันมามองแต่ข้าพเจ้า คงเหมือนมนุษย์เม่นล่ะมั้ง พอคุณลุงพาไปถึงรูปเก่าใบหนึ่ง ถามว่ารู้มั้ยว่ารูปอะไร ข้าพเจ้าบอกไม่รู้เพราะเก่ามากมองแทบไม่เห็น คุณลุงบอกว่าเป็นรูปของเสด็จรัชกาลที่ 5 ข้าพเจ้าก็ก้มกราบพระองค์ท่าน อาการขนลุกก็หายไปทันที คุณลุงบอกว่าเมื่อก่อนคุณป้าไม่สบายหาหมอมาหลายคนก็ไม่หาย เลยพาไปที่วัดเสด็จเจ้าอาวาสให้รูปของรัชกาลที่ 5 มาบูชา ไม่นานคุณป้าก็หายป่วย เมื่อก่อนรัชกาลที่ 5 เสด็จมาทางชลมารคและแวะเสวยพระกระยาหารที่วัดนี้และได้ถวายรูปพระองค์ท่านกับเจ้าอาวาสในสมัยนั้น เมื่อก่อนวัดนี้ชื่ออะไรจำไม่ได้แต่ตอนหลังเปลี่ยนชื่อเป็นวัดเสด็จฯ ข้าพเจ้าเคยไปสักการะพระองค์ท่านที่พระบรมรูปทรงม้าตรงสวนอัมพร 2 ครั้ง ไม่ได้สัมผัสกับกระญาณของพระองค์ท่านเลย หรือตรงนี้จะไม่มีญาณของพระองค์ท่าน ส่วนใครจะว่าไรไม่รู้เพราะสัมผัสไม่ได้จริงๆ
คลิก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีบอกไปแล้ว
พระนเรศวรมหาราช.. คือวันเสาร์และอาทิตย์แถวบ้านจะมีตลาดนัดในตอนเช้าและจะมีแผงพระอยู่ 5-6 ร้าน บ้างครั้งอาจจะมากหรือน้อยกว่าบ้าง ร้านประจำก็จะเสนอพระอย่างนั้นอย่างนี้ให้เขารู้ว่าข้าพเจ้าชอบแบบไหนบางทีก็ให้เขาหามาให้บ้าง วันนี้(หลายวันก่อน)เอาพระกริ่งมาให้องค์หนึ่ง ไม่รู้ของที่ไหนไม่ชอบบอกกับคนขายไป เขาก็คยั้นคะยอให้เอาไปบอกเด็กฝากมาเป็นพระกริ่งพระนเรศวรฯ เลยหยิบขึ้นมาส่องดูสักพักพลังงานบางอย่างมาสัมผัมแล้ว เห็นด้านล่างเป็นรูปพระนเรศวรฯหลั่งน้ำประกาศอิสรภาพ ท่านจะมาอยู่ด้วยหรือครับ ก็เลยบูชามาแล้วเดินมาอีกร้านหนึ่ง ขณะนั้นมีทหารอากาศท่านหนึ่งเข้ามาถาม อา..พระอะไรล่ะ ข้าพเจ้าบอกไปว่ากริ่งพระนเรศฯที่ไหนออกก็ยังไม่รู้(ไม่ได้สนใจพระใหม่เท่าไหร่) ทหารท่านนั้นบอกผมอยู่ใกล้อา.ผมขนลุกเลย ผมก็นับถือพระนเรศฯอยู่เช่นกัน เมื่อเอ่ยพระนามของพระองค์ท่านกระแสญาณท่านมาสัมผัสทหารคนนั้นและชายเจ้าของร้านอีกคนหนึ่ง สัมผัสพลังญาณไป 3 คน ชายคนหลังนี้อาทิตย์ต่อมาข้าพเจ้านำพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพล พระกริ่งมังกรทอง ลองให้เขาสัมผัสดูตามเรื่องข้างบน
พระนเรศวรฯมีแล้ว พระเจ้าตากมีแล้ว ต้องมีพระปิยมหาราชอีกองค์ จึงครบ 3 กษัตริย์ แล้วจะไปหาที่ไหน 10 กว่าปีมาแล้วยังไม่เคยสัมผัสญาณของพระองค์ท่านอีกเลย คิดได้ว่ามีพระกริ่งที่สมเด็จโตปลุกเสกสร้างปี พ.ศ. 2414 ข้าพเจ้าพึ่งจะได้มาก่อนกริ่งพระนเรศวรฯไม่นานเนื้อแก่ทอง เลยเช็คดู มีญาณของพระองค์ปิยะมหราชด้วย เดี๋ยวบูชาไปญาณท่านคงจะมาโปรด เวลานี้เลยบูชา 3 กษัตริย์ขึ้นคอ สลับกับพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลกับพระสมเด็จหลังท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ ถึงแม้องค์พระจะแรงไม่เท่าพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลแต่กระแสญาณแรงมาก
เมื่อวันจันทร์ที่ 1 ก.พ. 2559 นายตำรวจยศ ร.ต.อ อยู่ที่.......ประจวบฯได้ไลน์มาคุยกัน ท่านนำรูปพระสมเด็จหลังประทุนบรรจุกริ่งเหล็กไหลเนื้อดินสีดำในบล็อกของข้าพเจ้าส่งมาให้ดู และบอกว่าตัวท่านลองสัมผัสแล้วแรงมากเล่นเอาปวดแขนเลย..ข้าพเจ้าเห็นข้อความเลยถามกลับไปว่าองค์นี้ของผมนี่นาแล้วคุณเช็คพลังได้ไง ท่านว่าอ่านบทความของผมและไปเจอพอดี ท่านก็ฝึกกรรมฐานด้วยตอนนี้อ่านบทความทั้งหมดของผมแล้ว ท่านว่า..พลังวิ่งไปทั่วทั้งตัวเลย ข้าพเจ้าถามเวลานี้หรือ ท่านก็ว่าครับ ข้าพเจ้าบอกส่วนใหญ่โทรคุยจะสัมผัสได้ ท่านพูดต่อ..รู้สึกขนลุกซ่านไปทั้งตัว คุยสักพัก ข้าพเจ้าก็ยังถามอาการยังอยู่มั้ย ท่านว่ารู้สึกจะแรงขึ้น ที่ข้าพเจ้าถามเช่นนั้นเพราะตัวข้าพเจ้ามีอาการอยู่เมื่อตัวข้าพเจ้ารับพลังญาณจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และกระแสญาณจะส่งผ่านตัวข้าพเจ้าไปยังปลายสาย ซึ่งในขณะนี้นอกจากจะพูดคุยทางโทรศัพท์แล้ว คุยกันทางไลน์หมายถึงการพิมพ์ข้อความพูดกัน ฯ ก็สามารถสัมผัสกระแสญาณได้ ระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร (ระยะทาง 1,200 กิโลเมตร คุยไลน์สัมผัสพลังได้ อ่านบทความ พระสมเด็จเนื้อดินบรรจุกริ่ง )
จากการนั่งปฏิบัติกรรมฐานทุกวันทำให้มีการพัฒนาที่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้นได้
ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุมีผล ไม่มีบังเอิญ เพียงแต่เราไม่รู้ว่าในอดีตชาติที่นับไม่ถ้วนเราเคยเกิด เคยเป็น เคยมี เคยสร้างกรรมดี เคยสร้างกรรมเลว อะไรไว้บ้าง รู้ได้แต่ไม่ยึดติด เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมอาจจะรู้อะไรที่มากขึ้น หรือไม่รู้อะไรเลย แต่ไม่สงสัย ไม่ยึดติด เพราะเราเกิดมานับชาติไม่ถ้วนฯ
พระสมเด็จโรยผงตะไบทองคำ |
กริ่งพระนเรศวรฯ |
พระเจ้าตากสินมหราช |
พระกริ่งสมเด็จโต พ.ศ. 2414 เนื้อแก่ทอง รัชกาลที่ 5 |
โทร 092 339 5410
พระสมเด็จเนื้อดิน บรรจุเหล็กไหล ที่พูดถึง
พระกริ่งมังกรทองกลับร้ายเป็นดี เนื้อทองคำหลังภาษาจีนคำว่า ฝู หมายถึง โชคดี มีความสุข |
ของจะขลัง อยู่ทีจิต ใจเดียว จิตเดียว มันสวดมน ถือศิล
ตอบลบ