พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2392 รวม 12 พรรษา ตรงสะโพกจาร ป.ว.ร.หลังไม่มีบัว(VM 1201) |
พระกริ่งปวเรศที่หลายคนต้องการครอบครองและบูชาจะเป็นพระกริ่งปวเรศที่ทันหลวงปู่โตแต่ก็หายากมากๆ เฉพาะพระกริ่งปวเรศวาระพิเศษอธิษฐานจิตปลุกเสกหลายพรรษาโดยหลวงปู่โต กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์และคณาจารย์หลายท่าน บางคนชอบพระมีพลังแรง บางคนชอบพระสวย บางคนชอบพระสากลให้บูชาต่อได้ราคาแต่เวลานี้พระสากลก็ถูกกฏเกณฑ์ของพุทธพาณิชน์กำหนดและบล็อกตัวเองด้วยคำพูดของตัวเองที่แก้ไขได้ยากนอกจากกลืนน้ำลายตัวเอง
พระดีใช่จะอยู่แต่เศรษฐีเท่านั้น แต่พระดีจะอยู่กับคนดีคนมีศีลมีธรรม คนที่เป็นเศรษฐีนั้นอาจจะคดโกงเขามาเอาลัดเอาเปรียบผู้อื่นไม่มีคุณธรรมที่แท้จริงแต่ด้วยวิบากกรรมของเขายังไม่ส่งผลที่จะรับกรรมนั้นๆและผลบุญเก่าของเขายังส่งผลอยู่เขาก็ยังคงเป็นเศรษฐีอย่างนั้นจนกว่าบุญเก่าหมด กรรมตามทันหรือกรรมชั่วมีกำลังมากกว่าจึงส่งผลมาก่อน ทุกอย่างเป็นไปตามบุญและกรรม ถ้าไม่เคยทำกรรมอย่างนั้นก็ไม่ต้องรับกรรมแบบนั้น ไม่มีใครใหญ่เกินกรรมไม่มีใครหนีกรรมพ้นฯลฯ
อธิบายขยายความ อธิษฐานจิตปลุกเสกหลายพรรษา หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าหลวงปู่โตท่านมีกิจธุระมากจะมีเวลามาปลุกเสกพระเครื่องได้นานๆอย่างที่ข้าพเจ้าเขียนไว้อย่างนั้นหรือ พระกริ่งปวเรศบางชุดปลุกเสก 10 พรรษา 20 พรรษา 30 พรรษา ฯ ต้องเข้าใจคำว่าพรรษาก่อนว่า คือเวลาเข้าพรรษา 3 เดือนไม่ใช่ทั้งปี 365 วัน และเวลาเข้าพรรษานั้นพระสงฆ์มีข้อปฎิบัติโดยตรงที่จะละเว้นไม่ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ พระสงฆ์ที่อธิษฐานรับคำเข้าจำพรรษาแล้วจะไปค้างแรมที่อื่นไม่ได้ แต่ถ้าหากเดินทางออกไปแล้วและไม่สามารถกลับมาในเวลาที่กำหนด คือ ก่อนรุ่งสว่าง ก็จะถือว่าพระภิกษุรูปนั้นขาดพรรษา และต้องปรับอาบัติทุกกฎ แต่หากมีความจำเป็น เฉพาะกรณี ๆ ไป ตามที่ทรงระบุไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการพระศาสนาหรือการอุปัฏฐากบิดามารดา แต่ทั้งนี้ก็จะต้องกลับมาภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน..หลวงปู่โตเดินทางจากวัดระฆังมาวัดบวรและเข้าพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกและกลับวัดระฆัง หลวงปู่โตอาจจะใช้เวลาอธิษฐานจิตปลุกเสกพระ 5-10 นาทีเป็นอย่างน้อยก็ได้อย่างมากคงไม่เกิน 30 นาที หลวงปู่โตท่านไม่ทำให้ขาดพรรษาแน่นอน พระเครื่องที่หลวงปู่โตร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกอาจจะพรรษาเดียวหรือหลายพรรษานั้นก็ย่อมมีญาณของท่านทรงอยู่ แต่กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์เป็นองค์หลักคือท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกตลอด
ฌานวิสัยของพระผู้ทรงอภิญญา แสดงฤทธิ์ได้ เป็นเรื่องเกินวิสัยของปุถุชนทั่วไปจะเข้าใจและรู้ได้ไม่อาจคิดแบบวิทยาศาตร์คิดไปก็จะบ้า เช่นการเหาะ การเดินทะลุกำแพง การเดินบนน้ำ การหายตัว เหล่านี้วิทยาศาตร์ไม่สามารถหาคำอธิบายได้คิดมากไปก็จะเป็นบ้า เป็นวิสัยของผู้ได้ฌานอภิญญาสมาบัติ (อจินไตย 4 ได้แก่ 1.พุทธวิสัย 2.ฌานวิสัย 3. กรรมวิสัย 4. โลกวิสัย)
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำบอกว่าผู้ที่ฝึกฌานสมาธิจนคล่องแล้ว หายใจเข้าพุทก็เข้าถึงฌานได้แล้วยังไม่ทัน โธ เลย จะเข้าฌาน 4 ก่อนก็ยังได้จะสลับกันอย่างใดก็ได้ทั้งนั้นนี่เป็นความสามารถของผู้ที่ฝึกฝนมาอย่างดีแล้ว
พ่วง!!! พ่อค้าคนจีนคนหนึ่งได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อจงแล้วให้รู้สึกเลื่อมใสศรัทธาจึงเดินทางไปที่วัดหน้าต่างนอกเพื่ออยากจะได้น้ำมนต์สักขันมาพรมร้านค้า เขาได้เข้าไปกราบหลวงพ่อจงและบอกจุดประสงค์ของเขา หลวงพ่อจงท่านให้ไปเอาน้ำมาขันหนึ่ง เมื่อพ่อค้าคนจีนนำขันนำมนต์มาให้หลวงพ่อจงแล้ว หลวงพ่อจงเป่า "่พ่วง" คำเดียวเท่านั้นก็บอกให้พ่อค้าคนจีนคนนั้นนำน้ำมนต์นั้นไปใช้ได้แล้ว พ่อค้าคนจีนรู้สึกขัดเคืองใจที่หลวงพ่อจงไม่ทำน้ำมนต์ให้เป่าพ่วงเดียวจะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไรเดินบ่นไปเรื่อยๆและเอาน้ำมนต์ไปสาดทิ้ง เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่น้ำมนต์นั้นติดอยู่ที่ขันจะสาดจะคว่ำจะทำยังไงน้ำมนต์ก็ยังอยู่ในขันนั้น เขาจึงรีบกลับไปหาหลวงพ่อจงและกราบขอขมากับหลวงพ่อและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้หลวงพ่อจงรับรู้ฯ เมื่อเด็กๆหกล้มเป็นแผลถลอกผู้ใหญ่สมัยนั้นจะเป่า "พ่วง" หายแล้ว นี้และผู้ทรงอภิญญาฌานเป่าพ่วงเดียวกำสำเร็จแล้ว
เรื่องของคำกล่าวของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ พ่วงเดียวของหลวงพ่อจงแสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของจิตที่อบรมและฝึกฝนมาอย่างดีแล้วโดยเฉพาะผู้ทรงอภิญญาฌานที่เกินวิสัยของปุถุชนที่จะหาคำตอบได้
คลิกลิงก์ข้างล่างอ่านรายละเอียดเพิ่ม
พระกริ่งอนันตญาณรัศมีวิสุทธิคุณ
บางคนยึดติดตำราต้องมีในตำราถ้าตำราไม่มีเขียนแสดงว่าไม่มีจริงโดยไม่ได้หาเหตุผลอื่นๆมาพิจารณาด้วย บางทีก็แถไปเรื่อยว่าไม่มีตำราเขียนไว้ไปเอาข้อมูลมาจากไหนมาอ้างอิง ที่ตำราไม่มีการจดบันทึกไว้หรือไม่มีในตำราใช่ว่าสิ่งนั้นจะไม่มี บางคนก็มีความอิจฉาที่ตัวเขาเองไม่มีครอบครองไม่ได้บูชาเลยว่าของอย่างนี้ไม่มีจริง ข้าพเจ้าเคยท้าคนพวกนี้หลายคนมาพิสูจน์ด้วยการอธิษฐานจิตกับองค์พระเครื่องที่สงสัยว่าตามที่ข้าพเจ้าเขียนนั้นจริงเท็จอย่างไร ส่วนใหญ่ไม่กล้าบางคนก็ว่าเป็นบาป อะไรคือบาปการอธิษฐานจิตขอชมบารมีท่านเป็นบาปได้อย่างไรไม่มีการลบหลู่องค์ท่านเลย ในทางกลับกันถ้าพระเครื่องที่ข้าพเจ้าเขียนนั้นเป็นจริงแล้วตัวท่านมาบอกว่าไม่จริง ท่านเองที่กล่าวลบหลู่องค์พระเครื่ององค์นั้น คนที่ไม่เคยสัมผัสกับพลังพระและคุณวิเศษขององค์ได้เลยจะไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ แม้แต่พระสงฆ์ที่บวชแล้วหลายพรรษาใช่ว่าจะสัมผัสกับพลังคุณพระได้ทุกรูป บางทีก็ปล่อยไปไม่อธิบายให้เสียเวลา บางคนก็มีโอกาสได้สัมผัสกับพลังคุณพระที่เขาไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนเลย อย่างน้อยแต่ก็ไม่น้อยที่จริงก็มีเยอะอยู่เหมือนกันนะที่ได้คุยกับข้าพเจ้าแล้วเขาสามารถรับรู้ถึงกระแสพลังของคุณพระได้ แล้วแต่วาสนาบารมีของแต่ละคนก็แล้วกัน ไม่มีใครบังคับให้ใครเชื่อหรือไม่เชื่ออยู่ที่ตัวท่านรู้หรือไม่รู้ๆมากขนาดไหน
บางคนยึดติดตำราต้องมีในตำราถ้าตำราไม่มีเขียนแสดงว่าไม่มีจริงโดยไม่ได้หาเหตุผลอื่นๆมาพิจารณาด้วย บางทีก็แถไปเรื่อยว่าไม่มีตำราเขียนไว้ไปเอาข้อมูลมาจากไหนมาอ้างอิง ที่ตำราไม่มีการจดบันทึกไว้หรือไม่มีในตำราใช่ว่าสิ่งนั้นจะไม่มี บางคนก็มีความอิจฉาที่ตัวเขาเองไม่มีครอบครองไม่ได้บูชาเลยว่าของอย่างนี้ไม่มีจริง ข้าพเจ้าเคยท้าคนพวกนี้หลายคนมาพิสูจน์ด้วยการอธิษฐานจิตกับองค์พระเครื่องที่สงสัยว่าตามที่ข้าพเจ้าเขียนนั้นจริงเท็จอย่างไร ส่วนใหญ่ไม่กล้าบางคนก็ว่าเป็นบาป อะไรคือบาปการอธิษฐานจิตขอชมบารมีท่านเป็นบาปได้อย่างไรไม่มีการลบหลู่องค์ท่านเลย ในทางกลับกันถ้าพระเครื่องที่ข้าพเจ้าเขียนนั้นเป็นจริงแล้วตัวท่านมาบอกว่าไม่จริง ท่านเองที่กล่าวลบหลู่องค์พระเครื่ององค์นั้น คนที่ไม่เคยสัมผัสกับพลังพระและคุณวิเศษขององค์ได้เลยจะไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ แม้แต่พระสงฆ์ที่บวชแล้วหลายพรรษาใช่ว่าจะสัมผัสกับพลังคุณพระได้ทุกรูป บางทีก็ปล่อยไปไม่อธิบายให้เสียเวลา บางคนก็มีโอกาสได้สัมผัสกับพลังคุณพระที่เขาไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนเลย อย่างน้อยแต่ก็ไม่น้อยที่จริงก็มีเยอะอยู่เหมือนกันนะที่ได้คุยกับข้าพเจ้าแล้วเขาสามารถรับรู้ถึงกระแสพลังของคุณพระได้ แล้วแต่วาสนาบารมีของแต่ละคนก็แล้วกัน ไม่มีใครบังคับให้ใครเชื่อหรือไม่เชื่ออยู่ที่ตัวท่านรู้หรือไม่รู้ๆมากขนาดไหน
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2392 รวม 12 พรรษา ตรงสะโพกจาร ป.ว.ร.หลังไม่มีบัว จาร พ.ศ.สร้างและปลุกเสก (VM 1201) |
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2395 รวม 15 พรรษา ตรงสะโพกจาร ป.ว.ร.หลังไม่มีบัว(VM 1501) |
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2395 รวม 15 พรรษา ด้านขวาบัวหลังจาร พ.ศ. 2395 สนิมทองสนิมเงิน(VM 1501) |
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2399 รวม 19 พรรษา ตรงสะโพกจาร ป.ว.ร.(VMB 1901) |
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2399 รวม 19 พรรษา (VMB 1901) |
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2399 รวม 19 พรรษา สนิมทองสนิมเงิน (VMB 1901) |
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2393 รวม 13 พรรษา ตรงสะโพกจาร ป.ว.ร.(VMB 1301) |
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2393 รวม 13 พรรษา ด้านขวาบัวหลังจาร พ.ศ. 2393.(VMB 1301) |
พระกริ่งปวเรศ# สร้างปี พ.ศ.2380 อธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ. 2393 รวม 13 พรรษา เนื้อโลหะแก่ทอง สนิมทองสนิมเงิน.(VMB 1301) |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น