พระกริ่งปวเรศเนื้อทองคำ พระสมเด็จเนื้อทองคำทั้ง 3 องค์ที่เห็นอยู่นี้กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์อธิษฐานจิตปลุกเสกหลายพรรษาร่วมกับหลวงปู่โตและพระคณาจารย์อีกหลายท่าน ตั้งแต่กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ผนวชเข้ามานั้นพระองค์ได้ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกกับหลวงปู่โตมาโดยตลอด พระองค์ได้สร้างพระสมเด็จทองคำและพระสมเด็จเนื้อผงไว้ด้วยและได้นำพระสมเด็จวัดระฆังของหลวงปู่โตจำนวนหนึ่งมาอธิษฐานจิตปลุกเสกเพิ่มหลายพรรษา มีการจารยันต์ พ.ศ.และ ป.ว.ร.กำกับไว้ที่หลังพระสมเด็จด้วยดินสอก็มีน้ำทองก็มี พระองค์ได้สร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลไว้อีกมากมายเช่นคฑาประดับพระกริ่งปวเรศไว้หลายองค์ หุ่นพยนต์ ตะกรุด พระสมเด็จแช่น้ำมนต์ พระสมเด็จดินป่าช้าผสมน้ำว่านฯลฯ ยังมีอีกหลายรายการทั้งพระเครื่องวัตถุมงคลอื่นๆถ้าไม่มีในตำราส่วนใหญ่จะอยู่ในครอบครองของราชวงศ์ชั้นสูง
ความจริงที่ถูกเปิดเผยมาแล้วบางส่วน จากหลายๆคน เมื่อท่านใดได้อ่านบทความที่ข้าพเจ้าเขียนไปนี้โปรดพิจารณาให้ละเอียด เมื่อก่อนนี้ที่มีเซียนใหญ่รวมทั้งหนังสือพระเครื่องหนังสือพิมพ์ที่จะเขียนข้อมูลที่ลอกกันมาว่าพระกริ่งปวเรศมีสร้าง 30 องค์และการสร้างแต่ละครั้งไม่เกิน 8 องค์ แต่เมื่อมีข้อมูลใหม่ว่าขณะนี้มีพระกริ่งปวเรศ 100 องค์ตามที่เสนอข้อมูลไปตอนแรก พระกริ่งปวเรศที่เพิ่มขึ้นเอาตามฤกษ์ที่เขาพูดถึงกันจริงแล้วจะได้พระกริ่งปวเรศกี่องค์
พระพุทธเจ้า ทรงสอนว่า ฤกษ์ยามนั้นไม่สำคัญเท่ากับกรรม คือ การกระทำ หากทำดีด้วยความพากเพียรแล้ว ย่อมได้รับประโยชน์ดังหวัง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งฤกษ์ยาม คนที่เอาแต่พึ่งฤกษ์ยาม ไม่รู้จักพึ่งตนเองนั้น ถือว่าเป็นคนโง่ ดังมีพุทธพจน์ว่า
ความจริงที่ถูกเปิดเผยมาแล้วบางส่วน จากหลายๆคน เมื่อท่านใดได้อ่านบทความที่ข้าพเจ้าเขียนไปนี้โปรดพิจารณาให้ละเอียด เมื่อก่อนนี้ที่มีเซียนใหญ่รวมทั้งหนังสือพระเครื่องหนังสือพิมพ์ที่จะเขียนข้อมูลที่ลอกกันมาว่าพระกริ่งปวเรศมีสร้าง 30 องค์และการสร้างแต่ละครั้งไม่เกิน 8 องค์ แต่เมื่อมีข้อมูลใหม่ว่าขณะนี้มีพระกริ่งปวเรศ 100 องค์ตามที่เสนอข้อมูลไปตอนแรก พระกริ่งปวเรศที่เพิ่มขึ้นเอาตามฤกษ์ที่เขาพูดถึงกันจริงแล้วจะได้พระกริ่งปวเรศกี่องค์
พระพุทธเจ้า ทรงสอนว่า ฤกษ์ยามนั้นไม่สำคัญเท่ากับกรรม คือ การกระทำ หากทำดีด้วยความพากเพียรแล้ว ย่อมได้รับประโยชน์ดังหวัง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งฤกษ์ยาม คนที่เอาแต่พึ่งฤกษ์ยาม ไม่รู้จักพึ่งตนเองนั้น ถือว่าเป็นคนโง่ ดังมีพุทธพจน์ว่า
"ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนโง่ผู้มัวถือฤกษ์อยู่"
อันที่จริงเมื่อใดที่เราทำความดีเมื่อนั้นก็เป็นฤกษ์ดี ยามดีอยู่แล้ว ดังมีพุทธพจน์อีกตอนหนึ่งว่า
"สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้นย่อมชื่อว่าเป็นฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี"
ธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ถือเรื่องฤกษ์ยาม ถ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ถือเรื่องฤกษ์ยามพระองค์จะเป็นพระเช่นไร แน่นอนว่าพระองค์ไม่ถือเรื่องฤกษ์ยามเป็นแน่ เช่นเดียวกับหลวงปู่โตที่ก็ไม่ถือเรื่องฤกษ์ยาม หลวงปู่โตสร้างพระไปแจกไป มีลูกศิษย์มาช่วยกดพิมพ์หลวงปู่โตว่างเมื่อใดก็ปลุกเสกพระสมเด็จของท่าน นอกจากวาระพิเศษเป็นพระราชพิธีใหญ่โหรหลวงจะกำหนดฤกษ์ยามตามวิธีของพราหมณ์ไม่ใช่ของพุทธ แต่หลวงปู่โตไม่ได้ขัดอะไร พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าไม่ยึดติดเรื่องฤกษ์ยาม มีแต่ชาวบ้านที่ยังถือเรื่องฤกษ์ยาม
หลวงปู่โตได้บอกกับญาติโยมไว้ว่า "จะทำการสิ่งใด หากวันนั้น ฤกษ์นั้น โหรบอกว่าไม่ดีแต่เมื่อใด...โยมภาวนา พุทธัง ธัมมัง สังฆังสรณัง คัจฉามิ แล้วน้อมจิตให้เกิดความสงบภายในจิตใจ แผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย นั่นแล ฤกษ์ก็เปลี่ยน" พระภิกษุในธรรมวินัยนี้ไม่ถือเรื่องฤกษ์ยาม ไม่ควรจะเชื่ออะไรง่ายๆโดยเฉพาะคำพูดหรือตำราที่เซียนพระเขียนขึ้นมาเพื่อโฆษณาพระของตัวเอง
พระสมเด็จคะแนน ป.ว.ร ทองคำ จารหลัง ป.ว.ร.และยันต์ |
พระสมเด็จคะแนน ป.ว.ร ทองคำ หลังประกบพระชัยวัฒน์ทองคำ |
พระสมเด็จดิน 7 ป่าช้าผสมน้ำว่านปลุกเสก 54 พรรษา จารอักขระ พ.ศ. ป.ว.ร. |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น