พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพล#พระสมเด็จพิมพ์จอมพล#พระสมเด็จพิมพ์ฐานสิงห์ 3 ชั้น

          พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพล พระสมเด็จพิมพ์จอมพล พระสมเด็จพิมพ์ฐานสิงห์ 3 ชั้น เมื่อมีหลักฐานเป็นแผ่นจารึกออกมาเผยแพร่ว่ามีพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพล มีมวลสารพิเศษต่างๆ อย่างดินจอมปลวก ไคลเสมา ดินโป่ง ดินท่าน้ำ ดินกลางใจเมือง พระธาตุ เหล็กไหล ฯลฯ ปลุกเสก 99 ครั้งสร้างไว้ 99 องค์ อยู่ในวิหารวัดระฆัง มีพลังพุทธานุภาพสูงสุดกว่าพิมพ์ใดๆ หลักฐานเดิมคล้ายแผ่นโลหะ รูปและตัวหนังสือนูน ข้อความเป็นภาษาบาลี(แปลกกว่าเอกสารหลักฐานใดๆ) เมื่อเป็นแผ่นโลหะก็มิอาจรู้ได้ว่าองค์พระสีเป็นเช่นไร แต่มีการนำเสนอว่าเป็นพระองค์สีแดงซึ่งไม่ใช่สีของชาด เป็นสีแดงที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนหลังมีคนนำรูปมาเผยแพร่แต่อักษรถูกแปลแล้ว รูปพระคงเป็นสีแดงซึ่งทำให้เข้าใจว่าเป็นสีของชาดหรือองค์พระสีแดงอย่างรูปบน แผ่นจารึกนั้น ฐานสิงห์จะอ่อนช้อยส่วนรูปที่เขานำมาประกอบฐานสิงห์แข็งทื่อดูแล้วไม่งามสง่าไม่สวยงามสมกับเป็นพระสุดยอดอันดับหนึ่ง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะไปคิดว่าเป็นองค์นั้น ช่วงที่มีการเผยแพร่ใหม่ๆหลายคนคิดว่าเป็นพระสมเด็จพิมพ์จอมพล ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดว่าพระที่ตัวเองครอบครองนั้นคือพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลพระในตำนาน แผ่นจารึกไม่ได้มีแค่รูปพระแต่มีองค์ประกอบอื่นๆอีก เช่น ดอกบัวข้างละ 3 ดอกที่อยู่นอกองค์พระ รูปตรีศูลอยู่ตรงกลางด้านนอกด้านซ้ายองค์พระ รูปขวามือตรงกลางด้านนอกด้านขวามือองค์พระคล้ายรูปกรงนกแต่ไม่น่าจะเป็นไปได้แต่ก็ดูคล้ายมงกุฎแบบฝรั่งซึ่งตัวท่านอาจจะวาดไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ และด้านบนมีดอกบัวอีกด้านละดอก บนสุดขอบพระรูปคล้ายจั่วด้านในมีอักษรบาลี บนสุดของจั่วมีเลข 9 ไทยอยู่บนสุดและเลข 1 อยู่ตรงกลางซึ่งอาจเป็นภาษาบาลีคือตัว อุ ที่คล้ายเลขหนึ่งไทย ตัวเลขล่างสุดเหมือนเลข 0 ที่เขียน 2 ชั้นหรือเป็นห่วงวงกลมติดกับจั่วก็จะเป็นแบบฝาชี ซึ่งทั้งหมดนี้คงต้องมีความหมายอะไรที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับองค์พระด้วย ไม่มีใครรู้ความหมายหรือปริศนาตรงนี้
         จากการสัมผัสพลังพระ พระสมเด็จพิมพ์จอมพลที่คนส่วนใหญ่จะมีรวมกันมากกว่า 99 องค์นั้น(เช็คจากเว็บต่างๆ) พลังที่สัมผัสขึ้นแขนข้างเดียวเหมือนพระสมเด็จทั่วไป พระสมเด็จองค์สีแดงด้านบนบางคนสัมผัสได้แค่แขนแต่ไปสัมผัสองค์สีเขียวพิมพ์แบบเดียวกันได้แรงกว่าคือขนลุกทั้งตัว ส่วนพระสมเด็จองค์สีขาวที่มองเห็นพระธาตุและเหล็กไหลทดลองสัมผัส 2 คน พลังวิ่งเข้าหัวใจหน้าซีดจะหมดแรงต้องรีบถอนสมาธิทันที และอีกคนสัมผัสองค์ขาวขนลุกปกติแต่พอข้าพเจ้าบอกว่าองค์นี้ปลุกเสก 99 ครั้ง เขารู้สึกมึนหัวแน่นหน้าอกทันที และข้าพเจ้าเคยให้ลูกสาวลองตรวจสอบดู ลูกสาวอธิบายว่าเหมือนจิตจะหลุดจากร่างแบบในหนังอะไรแบบนั้นอธิบายไม่ถูกอาการเป็นอยู่ 2ครั้งที่ตรวจสอบ ซึ่งน่าจะเป็นเหมือนร่างจะลอยวูบขึ้นมา อธิบายในทางกลับกันเหมือนความรู้สึกตกจากที่สูงวูบลงมาให้เสียวเล่นๆตอนไปเล่นรถไฟเหาะตีลังกาประมาณนั้น
         ที่ข้าพเจ้าเขียนและอธิบายไว้หลายครั้งเพื่อเหตุและผล คนที่มาอ่านเจอหรืออยากได้ไปบูชาก็ต้องพิจารณาให้ดีอย่าพึงไปเชื่ออะไรทั้งหมดแม้บทความของข้าพเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อแต่ให้รู้ไว้ประกอบการพิจารณา ส่วนพระสมเด็จพระเครื่องในบล็อคนี้คนที่บูชาของข้าพเจ้าไปข้าพเจ้าให้อธิษฐานจิตถามองค์พระเอาเอง คุณสัมผัสเองรู้เองแล้วค่อยตัดสินใจ เมื่อคุณสัมผัสพลังคุณพระแล้วจะมีอาการขนลุก มากบ้างน้อยบ้าง มึนหัว อวกแตก แน่นหน้าอก ร้อนจนเหงื่อไหลแม้อยู่ในห้องแอร์ เย็นแม้ใส่เสื้อหนาๆ ฯลฯ แต่ละคนอาการอาจเหมือนกันและไม่เหมือนกัน อย่างที่เคยบอกไปมีตัวอย่างหลายองค์ เมื่อรู้ว่าพระสมเด็จองค์นี้แท้สัมผัสพลังได้แล้วแต่ถ้ารู้มากกว่านั้นเช่นพระสมเด็จองค์นี้ปลุกเสก 99 ครั้งใช่หรือไม่ ถ้าใช่พลังก็จะแรงขึ้นอีกมากแต่ถ้าไม่ใช่ร่างกายก็จะไม่มีปฎิกิริยาใดๆ ข้าพเจ้าให้คนอื่นตรวจสอบเองรู้เอง เพราะถ้าข้าพเจ้าบอกว่าพระดีอย่างนั้นอย่างนี้ท่านจะเชื่อข้าพเจ้าอย่างนั้นหรือ ท่านต้องทดสอบและรับรู้ด้วยตัวท่านเอง(ที่ไม่นำรูปแผ่นจารึกมาลงเพื่อให้ท่านลองไปอ่านข้อมูลของคนอื่นบ้างแล้วใช้วิจารณญาณในการพิจารณา)
         พลังพุทธานุภาพขององค์พระเพิ่มขึ้นได้ถ้าเรารู้รายละเอียดที่สำคัญขององค์พระ เช่นพระสมเด็จที่สร้างปี พ.ศ. 2411 พลังจะมากกว่าพระสมเด็จสร้าง พ.ศ. อื่นเป็นต้น 
         พลังพระก็ลดลงได้เช่นกันเช่น พระสมเด็จแท้ๆที่ผ่านการประกวดมาแล้วพลังพุทธานุภาพจะลดลงประมาณ 20 % ถ้าประกวดมาหลายครั้งพลังจะลดลงเรื่อยๆจนหมดพลังไปเลยก็เป็นได้ เพราะการนำพระไปประกวดเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทวดาที่รักษาองค์พระจะไม่อยู่ด้วย อีกกรณีหนึ่งคือห้อยพระเขาไปสถานที่มีหญิงขายบริการพลังคุณพระจะลดลงถึงเกือบครึ่ง คือทั้ง 2 กรณีเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำองค์พระไม่อยู่แล้ว เพราะเจ้าของพระไปลบหลู่ท่านๆจึงไม่อยู่ด้วย พลังพระที่เหลือเกิดจากผงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เมื่อพลังพุทธานุภาพขององค์พระถดถอยลดลงเจ้าของพระไม่สามารถที่จะอัญเชิญเทวดาประจำองค์พระกลับมาได้ ต้องให้คนที่ปฎิบัติมีศีลมีธรรมอัญเชิญท่านกลับมาแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เทวดาท่านยังมีกิเลสอยู่เช่นกันแต่น้อยกว่าผู้คนทั้งหลาย การที่ไปลบหลู่ท่านๆก็โกรธเป็นนะครับ เรื่องอย่างนี้อยู่ที่ความเชื่อและศรัทธา 
         ขุนแผนเจ้าเมืองกาญจน์ฯ ครั้งหนึ่งได้เดินทางไปจับโจรผู้ร้ายและเข้าไปหมู่บ้านโจร ทางเข้าหมู่บ้านมีประตูซุ้มมีป้ายเขียนบอกไว้อะไรสักอย่าง จำไม่ได้แล้วว่าเขียนว่าอะไร เมื่อขุนแผนขี่ม้าสีหมอกลอดผ่านซุ้มป้ายประตูนี้ไปแล้วทำให้วิชาเสื่อมทันที เพราะขุนแผนได้ลอดผ้าขาวม้าแดงไปแล้วจึงทำให้วิชาเสื่อม ผ้าขาวม้าแดงเป็นของอัปมงคลที่ล้างวิชาของคนที่เรียนวิชาอาคม ผ้าขาวม้าแดงก็คือผ้าซับประจำเดือนของผู้หญิงในสมัยนั้นอาจมีของล้างอาคมอย่างอื่นอีกด้วยจึงทำให้เจ้าเมืองกาญจน์วิชาเสื่อม ในยุคสมัยนี้ผู้หญิงขายบริการส่วนใหญ่จะมีของช่วยเรียกแขกให้รักให้หลงให้มาใช้บริการของหล่อน และผู้หญิงคนใดใช้ได้ผลเพื่อนๆก็จะมารุมล้อมให้บอกสถานที่ว่าอาจารย์ที่ไหนทำให้ สถานที่เริงรมณ์บางแห่งเจ้าของเองก็ดีหรือเหล่าหญิงขายบริการก็ดีอาจเอาเลือดประจำเดือนของตัวเองไปป้ายไว้ประตูทางเข้าเพื่อให้ผู้ชายเหล่านั้นเข้ามาติดกับดักหลงสถานที่หลงผู้หญิงไม่อยากกลับบ้าน ผู้ชายบ้างคนถึงกับรับผู้หญิงคนนั้นมาเป็นเมียน้อยหรือคอยบริการพิเศษให้ตัวเอง ในส่วนของประตูผ้าขาวม้าแดงซึ่งเขาอาจทำเป็นประตูที่สามารถเอาของล้างอาถรรพ์ไปติดไปแขวนไว้หรือนำเลือดประจำเดือนไปป้ายหรือไปฝังไว้ในผนังปูนแล้วโบกปูนทับทาสีเหมือนประตูทางเข้าปกติทั่วไป ตัวผู้หญิงบริการเองก็ทำเสน่ห์ให้ตัวเองเพื่อที่จะใช้จับเสี่ยๆ คนมีเงินไว้ในอำนาจให้รักให้หลงให้ติดใจในรสเสน่หาของหล่อน จะเป็นการสักยันต์ประเภท รัก หลง ไว้ในตัว ส่วนการจะสักเป็นรูปอะไรนั้นอยู่ที่อาจารย์ผู้สัก การสักเรื่องพรรค์นี้จะนิยมมากกว่าอย่างอื่นเพราะผู้ชายจะไม่รู้เลย ถ้าใช้พวกสีผึ้งนามันเสน่ห์อาจถูกสงสัยจับผิดได้ ถ้าใครเจอแบบนี้เข้าไปบ้านแตกแน่นอน แต่ถ้าใครบูชาพระกริ่งมังกรทองอาจแก้อาถรรพ์ได้ลองไปอ่านดูนะครับ คลิก พระกริ่งมังกรทอง
        

พระสมเด็จพิมพ์จอมพลหรือบางท่านเรียกพิมพ์ยอดขุนพลเนื้อแดงบรรจุกริ่งเหล็กไหล พระสมเด็จ 2 หน้าที่มีความหนาอยู่ที่ 1.4 ซม.
พระสมเด็จองค์นี้ส่งรูปให้ดูพร้อมกัน 2 คน ขณะคุยไลน์กันอยู่ ทั้ง 2 คนบอกว่าพอเห็นรูปเท่านั้นขนลุกทั้งตัวยังไม่ได้ทันอธิษฐานจิตตามที่ข้าพเจ้าเคยบอกไว้เลย

พระสมเด็จพิมพ์จอมพลพลังพุทธานุภาพมาตราฐานพระสมเด็จทั่วไป

พระสมเด็จพิมพ์ฐานสิงห์ 3 ชั้นพิเศษพลังพุทธานุภาพสูงกว่าพระสมเด็จพิมพ์ฐานสิงห์ 3ชั้นและพิมพ์จอมพลทั่วไป

         พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลรูปซ้ายมือเป็นผิวเดิมๆยังไม่ผ่านการใช้ รูปขวามือผ่านการใช้มีการสัมผัสเหงื่อความร้อนเย็นของร่างกาย สารเคลือบผิวหลุดจางหายไปบ้างเห็นผิวพระสีขาวแบบงาช้างสวยงาม มวลสารเด่นชัดขึ้น พระธาตุหลายสีวรรณะ เหล็กไหลหลากหลายตระกูล ธาตุกายสิทธิ์หลายชนิด ที่องค์หลวงปู่โตใส่ไว้บนองค์พระเพื่อให้พระพิมพ์นี้เป็นสุดยอดของพระเครื่องที่มีพลังพุทธานุภาพสูงกว่าพระพิมพ์ใดๆ(ด้านในซุ้มทั้งซ้ายและขวาอาจจะแทนสัญญลักษณ์รูปดอกบัวซึ่งมีข้างละ 6 รูป)
          รอคนมีวาสนาบารมีมาติดต่อขอเช่าบูชาไป ท่านตรวจสอบด้วยการอธิษฐานจิตสัมผัสกับพลังญาณสิ่งศักดิ์ มีไว้เพื่อบูชาสำหรับตัวท่านเองและเป็นมรดกให้ลูกหลานต่อไป ไม่ใช่คิดเก็งกำไรหรือเป็นของสะสมที่ต่อไปเมื่อถึงคราวลำบากสามารถนำไปให้บูชาต่อได้ (แสดงว่าพระไม่ถูกโฉลกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ช่วยทำการค้าถูกเขาโกง ธุรกิจขาดทุน)อย่างนั้นแสดงว่าท่านไม่ได้มีวาสนาบารมีจริงชีวิตถึงต้องตกต่ำลง แต่ขณะนั้นถ้าท่านทำผิดศีลธรรมร้ายแรงพระท่านอาจจะไม่อยู่ด้วย เคยมีข่าวออกมาบ่อยๆเศรษฐีตกอับต้องนำพระสมเด็จมาปล่อย แล้วถูกตีเก๊บ่อยไป สาเหตุมีหลายอย่างพระอาจแท้และไม่แท้
         พระแท้สากล หมายถึงพระที่เซียนพาณิชย์กำหนดกันเอง เพื่อป้องกันไม่ให้พระแท้ที่ตัวเองไม่เคยรู้จักมาเผยแพร่มากเกินไปจนพวกเขาไม่สามารถกำหนดราคาได้ เซียนพาณิชย์จะศึกษาและรู้จักในเฉพาะกลุ่มของเขาหรือพูดง่ายๆว่าพระพวกข้าแท้พวกอื่นไม่แท้ ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาก็ดูเป็นแค่นั้นเองผิดแผกจากนั้นดูไม่เป็นละ แม้แต่กลุ่มชมรมพระสมเด็จหลายกลุ่มที่ยังไม่เคยเห็นพระเนื้ออื่นๆก็มี พอไม่ใช่พระสมเด็จเนื้อปูนเปลือกหอยไปเจอเนื้ออื่นเข้าก็งงเช่นกัน พระที่ผ่านการประกวดติดรางวัลโดยเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังจะมี เศรษฐีทั้งเก่าและใหม่มาคอยเช่าบูชาไปเพื่อแปลงสินทรัพย์บ้างเพื่อไว้ฟอกเงินบ้าง พระสมเด็จดังกล่าวมีทั้งแท้และปลอม สมเด็จปลอมก็คือปลอม มาพูดเรื่องพระสมเด็จแท้กัน เคยมีข่าวออกไปว่าที่เสี่ยใหญ่หลายคนห้อยพระสมเด็จแท้ๆถูกยิงตาย เป็นเพราะอะไรกัน บางคนบอกว่าเพราะไปเลี่ยมพระปิดกันน้ำพลังพุทธานุภาพออกไม่ได้ต้องเจาะพลาสติกให้เป็นรู พลังจะได้ออกมาได้ ความจริงไม่ได้เกี่ยวกันเลย แต่เป็นเพราะพระผ่านการประกวดมาหลายครั้งหรือห้อยพระเข้าสถานเริงรมณ์พลังจึงหมดไปดังเหตุผลที่เขียนไว้ข้างบน เรื่องนี้เซียนพระไม่ได้สนใจขอให้พระของตัวเองปล่อยได้ราคาก็ดีแล้ว ทั้งเซียนพระและผู้เช่าพระไปจากเซียนส่วนใหญ่ไม่สามารถสัมผัสญาณของสิ่งศักดิ์ขององค์พระได้ ไม่มีเซียนพระคนไหนกล้าพูดได้ว่าพระของตัวเองมีพลังพุทธคุณมากน้อยขนาดไหนหรือตัวเซียนเองสัมผัสพลังพระได้ ไม่มีการยืนยันหรือรับรองเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในส่วนพระของข้าพเจ้านั้นข้าพเจ้าให้ท่านอธิษฐานจิตตรวจสอบเองให้มั่นใจก่อนที่จะบูชาไป และทำให้ท่านเกิดความมั่นใจว่าท่านได้พระแท้ไปบูชาและได้เคยสัมผัสกับญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว เมื่อท่านได้บูชาและหมั่นสวดมนต์รักษาศีลท่านก็จะสัมผัสได้ดีขึ้นเอง


พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลที่ผ่านการใช้มาแล้วระยะหนึ่ง ผิวพระขาวอย่างงาช้าง มวลสารศักดิ์สิทธิ์เห็นเด่นชัดมากมายทั้งพระธาตุและเหล็กไหลชนิดต่างๆ

มวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย

พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพล#04ที่ผ่านการใช้มาบ้างแล้ว


เปรียบเทียบพระสมเด็จรูปซ้ายมือมีสารเคลือบผิวมาแต่เดิมๆ รูปขวามือพระสมเด็จที่ถูกสัมผัสการใช้มาบ้างแล้ว
        สนใจบูชา โทร 092 339 5410

ความคิดเห็น