พระกริ่งปวเรศยุคต้น สมเด็จพุฒาจารย์โตร่วมปลุกเสก

          พระกริ่งปวเรศยุคต้นๆที่มีโค๊ตงา ฝีมือออกแบบเป็นของช่างหลวงบางพิมพ์ออกแบบใบหน้าคล้ายผู้สร้าง เนื้อพระส่วนใหญ่จะมีทองคำเป็นส่วนผสมหรือแก่ทอง พระกริ่งเนื้อทองคำสร้างน้อยส่วนใหญ่อยู่กับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง เนื้อเงินก็สร้างน้อย เนื้อทองม้าฬ่อหรือเนื้อทองดอกบวบที่นำแบบอย่างมาจากพระกริ่งจีนใหญ่ เนื้อนี้จะมีมากกว่า ปัจจุบันพระกริ่งเนื้อทองดอกบวบมีผิวสีเปลือกมันเทศคือสีน้ำตาลเข้มหรือทองม้าฬ่อ พระกริ่งพิมพ์ก้นครก(ครกบดยา) โดยเฉพาะที่ก้นจะสร้างได้ยากกว่าพิมพ์ก้นถ้วย ก้นเรียบ ผู้สร้างต้องมีฝีมือเป็นอย่างมาก การตกแต่งองค์พระสวยงาม พระกริ่งยุคแรกสร้างเสร็จส่วนใหญ่จะอยู่กับราชวงศ์ชั้นสูง ข้าราชบริพารใกล้ชิดอาจมีอยู่กับข้าราชการระดับบริหารประเทศด้วย ไม่มีการแจกจ่ายประชาชนทั่วไป เซียนใหญ่เซียนเล็กไม่รู้จัก ตำราไม่มีเขียนไว้ รู้เฉพาะภายใน พระกริ่งชุดนี้ได้ถึงเวลาออกมาปรากฏให้ผู้มีบุญบารมีได้ไปครอบครอง ถ้าท่านดูพระเนื้อโลหะเป็นท่านย่อมรู้ว่าพระชุดนี้มีความเก่าอายุร้อยกว่าปี พิมพ์ทรงงดงามช่างชาวบ้านทำไม่ได้แน่นอน ถ้าท่านเปิดใจยอมรับว่าพระชุดนี้เก่าจริงฝีมือปราณีต เนื้อโลหะเก่าอายุร้อยกว่าปี ท่านก็ได้พระดีไปบูชา พระกริ่งปวเรศยุคต้นทางสำนักวังหลวงได้นิมนต์สมเด็จพุฒาจารย์โตเป็นเจ้าพิธีในการอธิษฐานจิตปลุกเสกทุกครั้งในขณะที่ท่านยังมีพระชนม์ชีพอยู่

พระกริ่งปวเรศพิมพ์ก้นครก(ครกบดยา)จีวรลายดอกพิกุล

         โค๊ตงามีใช้ทั้งวังหน้าและวัดบวร ซึ่งในเวลานั้นมีเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงได้บวชอยู่ที่วัดบวร เลยทำให้ทั้งสองสำนักแห่งนี้มีความสัมพันธที่ดีต่อกันจึงเป็นเหตุให้มีการใช้โค๊ตงาทั้งของวังหน้าและวัดบวร เมื่อราชวงศ์ผู้ใหญ่จะสร้างพระกริ่งที่วัดบวรก็ต้องมีการตอกโค๊ตเป็นสัญลักษณ์เลยกลายเป็นธรรมเนียมต่อมาว่าพระกริ่งที่สร้างจากวัดบวรจะมีโค๊ตงา แต่พระกริ่งที่สร้างโดยราชวงศ์ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของทองคำมากกว่าของทางวัดจัดสร้าง ทางวัดไม่มีทุนพอที่จะนำทองคำมาเป็นส่วนผสมในการสร้างพระ และอาจมีราชวงศ์ชั้นสูงมาร่วมสร้างกับทางวัดโดยพระกริ่งของทางราชวงศ์จะเป็นเนื้อทองคำส่วนใหญ่และประชาชนทั่วไปก็ไม่มีโอกาสได้พบเห็น ส่วนสมเด็จพุฒาจารย์โตจะถูกนิมนต์มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยทุกครั้งฯ
          พระกริ่งปวเรศทั้ง 4 พิมพ์นี้(อาจมีพิมพ์อื่นด้วยที่ยังไม่ปรากฏ)ถูกนำมาเป็นต้นแบบในการสร้างพระกริ่งปวเรศรุ่นต่อๆมาโดยเปลี่ยนจากก้นครกบดยามาเป็นก้นถ้วยและก้นเรียบเพราะง่ายต่อการสร้าง พระกริ่งปวเรศเนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อนวโลหะถูกจัดสร้างที่วัดบวรส่วนใหญ่ซึ่งมีส่วนผสมของทองคำน้อยกว่าพระกริ่งยุคแรกที่ทางวังหน้าจัดสร้าง พระกริ่งปวเรศยุคต้นที่มีสมเด็จโตร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยนั้นเป็นที่ปรารถนาของบุคคลมากมาย แม้จะมีพระสมเด็จวัดระฆังแล้วก็ยังไม่ถึงที่สุด ขณะนี้เซียนใหญ่ยังตามหาพระกริ่งปวเรศยุคต้นที่สมเด็จพุฒาจารย์โตปลุกเสก แต่ก็ยังไม่เจอ เพราะไม่มีความรู้ว่าพระกริ่งปวเรศยุคต้นเป็นเช่นไร
          พระกริ่งชุดนี้เปิดโอกาสให้คนมีวาสนาบารมีบูชาไปครอบครองได้ครับ พระเครื่องทุกองค์ที่ท่านบูชาจากบล็อกนี้ท่านสามารถสัมผัสกับพลังญาณขององค์พระได้โดยข้าพเจ้าเป็นสื่อหรือตัวเชื่อมให้ญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผ่านมายังข้าพเจ้าแล้วส่งผ่านไปยังตัวท่านได้ถึงแม้ตัวท่านยังไม่เคยสามารถสัมผัสกับพลังพระได้มาก่อนและท่านยังอธิษฐานจิตถามได้ด้วยว่าพระองค์ที่ท่านชอบนั้นถูกโฉลกกับท่านหรือไม่ เรื่องอย่างนี้ท่านพิจารณาเองพิสูจน์เอง ความเชื่อความศรัทธาจะทำให้ท่านโชคดี คุยทางไลน์หรือทางโทรศัพท์ก็ยังสัมผัสญาณได้ หลายคนสัมผัสมาแล้ว ข้าพเจ้าได้เขียนรายละเอียดในบทความหลายบทความลองค้นหาดูครับ
        โทร 092 339 5410

พระกริ่งต้นแบบพระกริ่งปวเรศพิมพ์สมบูรณ์พูนสุข

พระกริ่งก้นครกบดยาเนื้อทองดอกบวบ สมเด็จโตปลุกเสก

พระกริ่งพิมพ์เดียวกับองค์บนสุดแต่เป็นก้นถ้วยแบบตื้นจีวรไม่มีดอก สมเด็จโตปลุกเสก พระกริ่งพิมพ์นี้ได้นำแบบมาสร้างอีกหลายวาระ โดยเฉพาะพระกริ่งปวเรศที่มีการตกแต่งสีทองให้ดูสวยงามอลังการ

          พระกริ่งปวเรศของวัดสุทัศน์ยุคต้นที่นำรูปแบบของวัดบวรมาใช้ ซึ่งยังมีการตอกโค๊ตงาอยู่ หลังจากนั้นไม่มีโค๊ตงาเพื่อให้เห็นความแตกต่างกันชัดเจน

พระกริ่งปวเรศวัดสุทัศน์ยุคต้นที่ยังมีการตอกโค๊ตงา

พระกริ่งปวเรศยุคต้นของวัดสุทัศน์