พระกริ่งชินบัญชร พระกริ่งอวโลกิเตศวร สมเด็จโตร่วมปลุกเสก

พระกริ่งชินบัญชร# พระกริ่งอวโลกิเตศวร# หลวงปู่โตอธิษฐานจิตปลุกเสก พุทธศิลป์งามล้ำค่าในแผ่นดิน

       พระกริ่งปวเรศ-พระมหาโพธิสัตว์-พระกริ่งอวโลกิเตศวร
โดยปกติฉันจะได้พระกริ่งปวเรศมาเป็นชุด(ชุดหนึ่งเป็นสิบองค์ขึ้นไปมีจารอักขระและ พ.ศ.ที่จะเรียงกัน)แต่แปลกที่พระกริ่งปวเรศพิมพ์นี้ฉันได้มาองค์เดียว ทางเจ้าของเดิมก็บอกว่ามีองค์เดียวจริงๆ ความจริงต้องมีหลายองค์แต่เท่าไหร่ไม่รู้และไปอยู่ที่ไหนบ้าง
พระกริ่งปวเรศ-พระมหาโพธิสัตว์ พระกริ่งองค์นี้มีโค๊ตหยดน้ำ 4 โค๊ตอยู่ระหว่างบัวหลังข้างละโค๊ตบน 2 ล่าง 2 ที่ฉันเห็นพระกริ่งองค์นี้ครั้งแรกรู้สึกถึงพระพักตร์มีความสมบูรณ์ด้วยพุทธลักษณะที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาบารมี การจะสร้างพระสักองค์หนึ่งให้สมบูรณ์แบบนั้นพระพักตร์เป็นส่วนที่สร้างได้ยากที่สุด เพราะพระพักตร์ของพระพุทธนั้นดูแล้วให้รู้สึกสงบสุขฯมองแล้วไม่เกิดความกำหนัดยินดีใดๆมีแต่ความเคารพศรัทธาอย่างจริงใจ พระพักตร์ผู้ชายก็ไม่ใช่ผู้หญิงก็ไม่ใช่คือไม่มีเพศ
ซึ่งในสมัยพุทธกาลที่มีหญิงชาวบ้านยินดีในรูปลักษณะของพระชินนะวันหนึ่ง ขณะที่ท่านชินนะได้ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ได้มีหญิงผู้หนึ่งซึ่งแอบหลงรักท่านชินนะ มิอาจยับยั้งใจเอาไว้ได้จึงได้โผผวาเข้ากอดท่านชินนะอย่างลืมตัว ท่านชินนะ เห็นอาการของผู้หญิงคนนั้นกระทำแก่ท่านดังนี้ก็บังเกิดความสังเวชอย่างใหญ่ หลวง อันพรหมจรรย์ของท่านต้องมาแปดเปื้อนเสียดังนี้ ความยึดมั่นในพรหมจรรย์ของท่านต้องมาสะบั้นลง ท่านจึงดำริขึ้นว่า "ตัวท่านนี้มีรูปงามเช่นนี้ย่อมก่อให้เกิดอกุศลกรรมแก่อิตถีเพศ เป็นการสร้างบาปให้เกิดขึ้นด้วยมีกายรูปนี้เป็นเหตุ จะมีสักเท่าใดกันหนอที่ปรารถนาล่วงพรหมจรรย์ของท่านเช่นผู้หญิงคนนี้.."ท่านชินนะ คิดดังนี้ เห็นกายเป็นเหตุ กายทำให้พรหมจรรย์จิตเสื่อมสลาย กายก่ออกุศลจิตให้เกิดเป็นบาปกับอิตถีเพศผู้ยังมัวเมาในรูป ท่านจึงถอดกายทิพย์ออกจากร่าง ทิ้งสังขารไว้เมื่อยังไม่ถึงกาล เมื่ออายุท่านเพียง 23 ปี 6 เดือน กายทิพย์ของท่านจึงไปได้แค่ชั้นพรหมโลก(ท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ)
พระพักตร์คำว่า อวโลกิเตศวร ได้มีผู้ให้ความหมายไว้หลายนัยด้วยกัน แต่โดยรูปศัพท์แล้ว คำว่าอวโลกิเตศวรมาจากคำสันสกฤตสองคำคือ อวโลกิต กับ อิศวร แปลได้ว่าผู้เป็นใหญ่ที่เฝ้ามองจากเบื้องบน หรือพระผู้ทัศนาดูโลก ซึ่งหมายถึงเฝ้าดูแลสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์นั่นเอง, ซิมเมอร์ นักวิชาการชาวเยอรมันอธิบายว่า พระโพธิสัตว์องค์นี้ทรงเป็นสมันตมุข คือ ปรากฏพระพักตร์อยู่ทุกทิศอาจแลเห็นทั้งหมด ทรงเป็นผู้ที่สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ คืออาจจะเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อใดก็ได้ แต่ทรงยับยั้งไว้เนื่องจากความกรุณาสงสารต่อสรรพสัตว์ นอกจากนี้นักปราชญ์พุทธศาสนาบางท่านยังได้เสนอความเห็นว่า คำว่า อิศวร นั้น เป็นเสมือนตำแหน่งที่ติดมากับพระนามอวโลกิตะ จึงถือได้ว่าเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์เดียวที่มีตำแหน่งระบุไว้ท้ายพระนาม ในขณะที่พระโพธิสัตว์พระองค์อื่นหามีไม่ อันแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความสำคัญยิ่งของพระโพธิสัตว์พระองค์นี้
พุทธศาสนิกชนชาวจีนจะรู้จักพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ในพระนามว่า กวนซีอิม หรือ กวนอิม ซึ่งก็มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่าอวโลกิเตศวร
หลวงปู่โตได้สร้างพระเครื่องที่มีองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมไว้หลายพิมพ์
เมื่อฉันคิดว่าพระกริ่งองค์นี้จะเรียกว่าพิมพ์มหาโพธิสัตว์ดีหรือไม่ รู้สึกมีกระแสพลังมากระทบยิ่งคิดยิ่งมาและถ้าเรียกว่า"พระกริ่งอวโลกิเตศวร"จะเป็นยังไง กระแสมาแรงกว่าเดิมปิติน้ำตาไหล (ความคิดเห็นส่วนตัวโปรพใช้วิจารณญาณในการพิจารณา)
พระกริ่งอวโลกิเตศวรองค์นี้สร้างประมาณปี พ.ศ.2380 จารอักขระเต็ม อธิษฐานจิตปลุกเสกโดยหลวงปู่โตกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์และพระคณาจารย์อีกหลายท่านฯ
ลงบทความนี้ครั้งแรกเมื่อ 9 ต.ค. 2019 ในFacebook
ลงบทความนี้อีกครั้ง วันที่ 9 ก.พ 2021 ในFacebook
บทความนี้แก้ไขเพิ่มเติมจากบทความเก่า
   
พระกริ่งชินบัญชร#  หลวงปู่โตอธิษฐานจิตปลุกเสก ด้านหลังจารอักขระ

พระกริ่งชินบัญชร#  หลวงปู่โตอธิษฐานจิตปลุกเสก ด้านหลังจารอักขระ

พระกริ่งชินบัญชร#  หลวงปู่โตอธิษฐานจิตปลุกเสก ก้นจารอักขระเต็มรูปแบบเดียวกับพระกริ่งปวเรศที่หลวงปู่โตร่วมปลุกเสก
สนใจบูชา โทร 09 2339 5410

ความคิดเห็น