พระกริ่งปวเรศ - 3 ยุค หลวงปู่โต กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ พระสนาม

พระกริ่งปวเรศ - ยุคต้นหลวงปู่โตสร้างปี พ.ศ.๒๓๗๐ และอธิษฐานจิตปลุกเสกถึง พ.ศ.๒๔๐๖ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ได้เข้ามาร่วมปลุกเสกด้วยตั้งแต่พระองค์ได้บวชเป็นพระภิกษุ

        พระกริ่งปวเรศ ยุคต้นที่หลวงปู่โตสร้างปี พ.ศ. 2370 มีอยู่หลายพิมพ์และเป็นต้นแบบในการสร้างพระกริ่งในวาระต่อๆมา พระกริ่งปวเรศใน พ.ศ. นี้ถึงแม้กรมพระยาปวเรศไม่ได้ร่วมสร้างด้วย แต่มีพระกริ่งปวเรศชุดพิเศษที่อธิษฐานจิตปลุกเสกหลายพรรษาที่กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วย ซึ่งพระกริ่งปวเรศองค์นี้กรมพระยาปวเรศฯก็มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยหลังจากที่พระองค์ท่านได้บวชเข้ามาเป็นพระภิกษุแล้ว พระกริ่งปวเรศที่หลวงปู่โตสร้างและกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกก็คงเรียกว่าพระกริ่งปวเรศด้วย และคงเรียกว่าพระกริ่งปวเรศทันหลวงปู่โตจะเรียกว่าพระกริ่งหลวงปู่โตก็ได้แต่ส่วนใหญ่จะเรียกพระกริ่งปวเรศมากกว่า พระกริ่งปวเรศองค์นี้มีความเก่าของโลหะ จารเก่า 
       พระกริ่งปวเรศยุคต้นหลวงปู่โตที่กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ร่วมปลุกเสกด้วยนั้นจะเป็นที่แสวงหาเป็นที่ต้องการของคนที่รู้และได้ศึกษาข้อเท็จจริงว่าพระกริ่งยุคนี้อธิษฐานจิตปลุกเสกจากหลวงปู่โตที่พระสมเด็จของท่านเป็นที่นับถือและยอมรับว่าเป็นจักรพรรดิ์เบญจภาคีและกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์เป็นจักรพรรดิ์แห่งพระกริ่ง 2 จักรพรรดิ์มาร่วมปลุกเสกพระกริ่งปวเรศยุคต้น ฉนั้นพลังพุทธานุภาพย่อมสูงกว่าพระสมเด็จและพระกริ่งปวเรศที่ปลุกเสกเพียงองค์เดียว มีหลายคนที่เคยสัมผัสกับพลังที่แตกต่างกันมาแล้ว หลายคนสามารถสัมผัสกับพลังพระได้แต่คนส่วนใหญ่สัมผัสไม่ได้ หลายคนอยากจะฝึกเพื่อให้สัมผัสกับพลังพระให้ได้เพราะจะได้ช่วยในการพิจารณาพระแท้ได้เร็วขึ้นนอกจากการส่องพระเพื่อหารายละเอียดความเก่าความเป็นธรรมชาติของพระมีอายุรอยตำหนิต่างๆ คนที่สัมผัสกับพลังพระไม่ได้และปฏิเสธเรื่องนี้ก็คล้ายกับคนที่อ่านพระไตรปิฎกแต่ไม่เคยนั่งสมาธิไม่เคยฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ถ้าจะพูดไปจะยาวมาก นานาจิตตัง คนรู้ก็จะเข้าใจไม่ยากแต่ด้วยที่เขาไม่ได้ปฏิบัติอย่างจริงจังเลยยังเข้าไม่ถึง บางคนสัมผัสพลังพระด้วยการท่องคาถากำกับเช่นคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ธาตุ 4 ฯ การส่งจิตและอธิษฐานด้วยอุปจารสมาธิสามารถรู้ได้รวดเร็วและละเอียดลึก มโนมยิทธิ ขอชมบารมี แต่ละวิธีก็จะแตกต่างกันไปบ้างพื้นฐานต้องมีสมาธิ ส่วนตัวของข้าพเจ้าก็ใช้วิธีอธิษฐานจิตขอชมบารมีอยากรู้อะไรก็อธิษฐานและส่งจิตไปที่องค์พระ

        พระกริ่งปวเรศ ยุคกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ที่ไม่ทันหลวงปู่โต พระกริ่งปวเรศในยุคนี้จะมีการตกแต่งองค์พระสวยงามกว่ายุคหลวงปู่โตซึ่งข้าพเจ้าพอมีเก็บไม่กี่องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระกริ่งปวเรศที่ทันหลวงปู่โต บางคนอาจจะมีพระกริ่งปวเรศในยุคนี้มากมีพระกริ่งปวเรศยุคทันหลวงปู่โตน้อยหรือไม่มีเลย
         พระกริ่งปวเรศสนามหรือพระกริ่งโรงงานซึ่งในเวลานี้มีออกมามากพิมพ์แปลกๆไม่เคยเห็น ส่วนใหญ่จะเน้นสีทองและน้ำตาลเข้มทาทอง เห็นมีการประกวดพระกริ่งปวเรศด้วย พระกริ่งปวเรศโรงงานติดรางวัลนำมาโชว์ให้สมาชิกชม มีคนชอบพระกริ่งปวเรศโรงงานกดไลก์กันใหญ่ พระกริ่งปวเรศโรงงานเยอะมากนำมาโชว์มีคนกดไลก์ข้าพเจ้าเห็นแล้วไม่กล้าไปคอมเมนท์เพราะเคยไปคอมเมนท์แล้วต้องให้เหตุผลมากมายคิดว่าฝ่ายโรงงานคงเก็บข้อมูลเพื่อนำไปแก้ไขพระกริ่งของเขาเพื่อให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ข้อมูลที่บอกเขาไปไม่ได้เกี่ยวกับการอธิษฐานจิตเพื่อสัมผัสพลังเลย แต่เมื่ออธิษฐานจิตถามไปแล้วเพ่งแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรไม่มีอะไรมากระทบ พระบางองค์ที่ข้าพเจ้าดูมีบ้างที่ท่านส่งพลังมากระทบโดยไม่ได้อธิษฐานจิตใดๆ

       พระกริ่งปวเรศที่มีชื่อเสียงและมีมูลค่าสูงในการบูชาของวงการพระกริ่งนั้น ส่วนใหญ่จะมีข้อมูลที่เหมือนกันว่าสร้างประมาณปีพ.ศ.2416 ถึง 2434 การจัดสร้างในครั้งนั้นเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระมหากษัตริย์ และเหล่าเชื้อพระวงศ์โดยเฉพาะ จำนวนการสร้างจึงน้อยมาก น่าจะไม่เกิน 30 องค์ ถ้าข้อมูลเป็นอย่างที่เขาอ้างกันนั้น ทำไมพระกริ่งปวเรศจำนวน 30 องค์ถึงมาอยู่กับเจ้าสัวเศรษฐีและนักการเมืองทั้งหมด 30 องค์ เชื้อพระวงศ์ท่านไม่คิดหวงแหนบ้างหรือ ท่านลำบากขัดสนมากที่ท่านทั้งหมดจะนำพระกริ่งปวเรศออกมาให้บรรดาเจ้าสัวนัการเมืองได้บูชาไปครอบครอง ลองพิจารณากันดูดีๆว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่

พระกริ่งปวเรศ - ยุคต้นหลวงปู่โตสร้างปี พ.ศ.๒๓๗๐ มีจาร พ.ศ.กำกับไว้ เนื้อโลหะเก่าจารเก่า

พระกริ่งปวเรศ - ยุคต้นหลวงปู่โตสร้างปี พ.ศ.๒๓๗๐ ปลุกเสกถึง พ.ศ. ๒๔๐๖

พระกริ่งปวเรศ - ยุคต้นหลวงปู่โตสร้างปี พ.ศ.๒๓๗๐ กันจารอักขระเต็ม