พระสมเด็จวัดระฆังสร้างปี พ.ศ.2411หลังดอกโบตั๋นเนื้อเบญจรงค์โรยผงตะไบทองคำ |
พิมพ์หลังดอกโบตั๋น พิมพ์หลังต่างๆ ประมาณว่ามีคนเก็บสะสมไว้ถึง 60 กว่าพิมพ์ ซึ่งโดยเนื้อหาและมวลสารของพระสมเด็จจะเป็นในทางเดียวกัน พระสมเด็จโรยผงตะไบทองคำที่นำพระสมเด็จวัดระฆังบางส่วนบรรจุไว้ที่กรุเจดีย์ทองวัดพระแก้ว พระสมเด็จของวัดพระแก้วจริงๆแล้วจะเป็นพระเนื้อละเอียดใช้เครื่องบดซึ่งต่างจากของวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์หลังดอกโบตั๋น เป็นดอกไม้ที่นิยมใช้ในงานศิลปะมายาวนานหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำชาติของจีน โดยถือเป็นดอกไม้แห่งลาภยศและความร่ำรวยแล้วยังเป็นราชาแห่งดอกไม้ และเป็นสัญลักษณ์ของโชคดีสำหรับเพศหญิงดอกโบตั๋น แตกต่างจากดอกไม้ชนิดอื่น ๆ คือที่ก้านจะมีใบ 3 ใบ และในใบใหญ่แต่ละใบจะแตกออกเป็นใบเล็กอีก 3 ใ บ รวมทั้งหมด 9 ใบ จึงเป็นที่มาของคำเปรียบเปรยว่า "ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้มังกร 9 หัว" กล่าวคือเป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความมั่งมีศรีสุข มีลาภยศยิ่งใหญ่ จิตรกรจีนมักจะวาดภาพดอกโบตั๋นสีสันสดใส และคนจีนก็นิยมนำไปประดับบ้านโดยเฉพาะที่ห้องรับแขก เพราะเชื่อกันว่าจะนำพามาซึ่งความมั่งคั่ง โชคลาภและความร่ำรวยในสมัยโบราณ ดอกโบตั๋นเป็นที่นิยมเพาะเลี้ยงกันในหมู่ชนชั้นสูง ซึ่งบางครั้งราคาประมูลขายกันแพงมาก จนสุดยอดกวีราชวงศ์ถังท่านหนึ่ง ชื่อ ไป๋จวีอี้ กล่าวไว้ว่า "อี้ฉงเซินเซ่อฮวา สือฮุจงเหรินฝู้" ซึ่งหมายความว่า "โบตั๋นเพียงไม่กี่ดอกยังมีมูลค่ามากกว่าเงินภาษีของชนชั้นกลางสิบคนเสียอีก"
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์หลังดอกโบตั๋นจึงมีความหมายที่ดีที่ชาวจีนที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่โตได้ร่วมช่วยกันสร้างพระสมเด็จและชาวจีนเจ้าของร้านทองเยาวราชได้นำผงตะไบทองคำมามอบให้หลวงปู่โตเพื่อผสมลงไปในพระสมเด็จเพื่อความเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้นและมีความหมายถึงโชคลาภเงินทองอีกด้วย
พระสมเด็จวัดระฆังสร้างปี พ.ศ.2411หลังดอกโบตั๋น เส้นจีวรและสังฆาฏิชัด |
พระสมเด็จวัดระฆังสร้างปี พ.ศ.2411หลังดอกโบตั๋น พิมพ์ทรงคมชัดพระเนตรพระนาสิกพระโอษฐ์ เส้นสังฆาฏิ |
พระสมเด็จวัดระฆังสร้างปี พ.ศ.2411หลังดอกโบตั๋นโรยผงตะไบทองคำ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น